เรียนสถาปัตย์ ต้องเก่งอะไร
การเรียนสถาปัตยกรรมเป็นเส้นทางที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น เพราะนอกจากจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังต้องมีทักษะหลายด้านประกอบกัน วันนี้เราจะมาดูกันว่าการเรียนสถาปัตย์ต้องมีความถนัดและความสามารถด้านใดบ้าง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าเรียน
ทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนสถาปัตยกรรม
1. ความสามารถด้านศิลปะและการวาดภาพ
การวาดภาพเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญมากสำหรับนักศึกษาสถาปัตย์ คุณต้องสามารถถ่ายทอดแนวคิดและจินตนาการผ่านการร่างภาพ (Sketch) ได้ ทั้งการวาดภาพ 2 มิติและ 3 มิติ รวมถึงการเขียนแบบด้วยมือ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญก่อนที่จะก้าวไปสู่การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
2. ทักษะด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์
การคำนวณเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบอาคาร คุณต้องเข้าใจเรื่องโครงสร้าง การรับน้ำหนัก และการคำนวณพื้นที่ใช้สอย นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจหลักการทางฟิสิกส์เพื่อออกแบบอาคารที่มีความมั่นคงแข็งแรง
3. ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
สถาปนิกต้องมีความคิดสร้างสรรค์สูง สามารถออกแบบสิ่งใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานและความสวยงาม ต้องมีจินตนาการที่กว้างไกลแต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ในการก่อสร้างจริง
สิ่งที่ต้องเรียนรู้ในคณะสถาปัตย์
1. การออกแบบสถาปัตยกรรม
- หลักการออกแบบพื้นฐาน
- การจัดวางผังอาคาร
- การออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม
- การออกแบบภายในอาคาร
- การเขียนแบบก่อสร้าง
2. เทคโนโลยีการก่อสร้าง
- วัสดุก่อสร้างและคุณสมบัติ
- ระบบโครงสร้างอาคาร
- งานระบบอาคาร
- การควบคุมงานก่อสร้าง
3. โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับงานสถาปัตยกรรม
- AutoCAD สำหรับการเขียนแบบ 2 มิติ
- SketchUp สำหรับการทำโมเดล 3 มิติ
- 3D Max หรือ V-Ray สำหรับงานภาพเสมือนจริง
- Adobe Photoshop สำหรับการตกแต่งภาพ
คุณสมบัติส่วนบุคคลที่สำคัญ
1. ความอดทนและความขยัน
การเรียนสถาปัตยกรรมต้องใช้เวลาและความทุ่มเทสูง นักศึกษาต้องมีความอดทนในการทำงานหนัก การแก้ไขงานซ้ำๆ และการทำงานภายใต้เงื่อนไขเวลา
2. การบริหารเวลา
เนื่องจากมีงานที่ต้องทำมากมาย ทั้งงานออกแบบ งานเขียนแบบ และการเรียนทฤษฎี นักศึกษาจำเป็นต้องมีทักษะการบริหารเวลาที่ดี
3. การทำงานเป็นทีม
งานสถาปัตยกรรมต้องอาศัยความร่วมมือกับผู้อื่น ทั้งเพื่อนร่วมงาน วิศวกร และผู้รับเหมา จึงต้องมีทักษะการทำงานเป็นทีมที่ดี
การเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนสถาปัตยกรรม
- ฝึกฝนการวาดภาพและเขียนแบบพื้นฐาน
- พัฒนาทักษะคณิตศาสตร์และฟิสิกส์
- เรียนรู้การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐาน
- ศึกษาผลงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ
- เข้าร่วมกิจกรรมหรือเวิร์คช็อปด้านการออกแบบ
โอกาสในการประกอบอาชีพหลังเรียนจบ
1. สถาปนิกออกแบบอาคาร
เส้นทางอาชีพที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย คือการทำงานในบริษัทออกแบบหรือเปิดสำนักงานสถาปนิกของตัวเอง งานหลักคือการออกแบบอาคารประเภทต่างๆ ตั้งแต่บ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงอาคารขนาดใหญ่
2. สถาปนิกภายใน
ผู้ที่สนใจงานออกแบบภายในสามารถเลือกเส้นทางนี้ได้ โดยเน้นการออกแบบพื้นที่ภายในอาคาร การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่งให้สวยงามและใช้งานได้ดี
3. นักออกแบบผลิตภัณฑ์
ด้วยพื้นฐานการออกแบบที่แข็งแกร่ง บัณฑิตสถาปัตยกรรมสามารถต่อยอดไปสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ
4. นักวิชาการหรืออาจารย์
สำหรับผู้ที่สนใจงานวิชาการ สามารถศึกษาต่อในระดับสูงและทำงานในสถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและสถาปัตยกรรม
คำแนะนำจากรุ่นพี่ที่เรียนสถาปัตยกรรม
- “การเรียนสถาปัตย์ไม่ได้ยากเกินความสามารถ แต่ต้องมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทจริงๆ อย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูก เพราะทุกข้อผิดพลาดคือบทเรียนที่มีค่า”
- “เรื่องการนอนน้อยเป็นเรื่องจริง แต่ถ้ารู้จักบริหารเวลาดีๆ ก็ไม่หนักเกินไป แนะนำให้ทำงานอย่างมีแผน อย่าปล่อยให้งานคั่งค้างจนต้องอดนอน”
- “การฝึกงานระหว่างเรียนสำคัญมาก พยายามหาโอกาสฝึกงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง จะได้ประสบการณ์จริงและมีโอกาสได้งานทำหลังเรียนจบ”
ข้อควรคำนึงก่อนตัดสินใจเรียนสถาปัตยกรรม
- ต้องเตรียมใจเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะนอกจากค่าเทอมแล้ว ยังมีค่าอุปกรณ์การเรียน เช่น คอมพิวเตอร์ โปรแกรมออกแบบ อุปกรณ์เขียนแบบ และวัสดุทำโมเดล
- การเรียนใช้เวลา 5 ปี และอาจต้องใช้เวลาเพิ่มในการฝึกงานและสอบใบประกอบวิชาชีพ
- ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีและแนวคิดการออกแบบเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
การเรียนสถาปัตยกรรมเป็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและความแม่นยำในการคำนวณ ผู้ที่สนใจเรียนต้องมีทั้งความสามารถด้านศิลปะ ความเข้าใจด้านเทคนิค และคุณสมบัติส่วนบุคคลที่เหมาะสม การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การเรียนในคณะสถาปัตยกรรมเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ หากคุณมีความฝันที่จะเป็นสถาปนิก การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการก้าวสู่เส้นทางวิชาชีพสถาปัตยกรรมอย่างมั่นคง